Contents
มารู้จักกระบองเพชรหางกระรอกกันเถอะ
มองเผินๆ ไม่คิดว่าเจ้านี่จะเป็นพืชเสียด้วยซ้ำ แต่มองไปมองมาจะเป็นสัตว์ก็ไม่ใช่ จริงๆแล้วเจ้านี่คือกระบองเพชรหางกระรอกต่างหาก
น้องเป็นยังไง ทำไมหน้าตาเหมือนหาง รีบพากันมาทำความรู้จักเลย เชื่อว่าหลายๆคนรู้จักกระบองเพชร แต่จะมีสักกี่คนกันนะ
ที่รู้ว่าสายพันธุ์ของกระบองเพชรนั้นมีมากมาย จนบางทีก็มีสายพันธุ์ที่เราไม่เคยเห็นกันมาก่อน วันนี้ Midori-Garden
จึงขอพาทุกท่านมาทำความรู้จัก กับเจ้ากระบองเพชรสุดน่ารักหน้าตาเหมือนหาง นั่นคือกระบองเพชรหางกระรอกนั่นเอง
ลักษณะของกระบองเพชรหางกระรอก
พูดถึงกระบองเพชรหางกระรอกแล้ว เรามารู้จักสกุล “พันธุ์หาง” กันก่อนดีกว่า อย่างที่เคยกล่าวไว้ในบทความก่อนๆ
ว่ากระบองเพชรที่อยู่ในสกุลเดียวกัน จะมีลักษณะที่ใกล้เคียงกัน บางสายพันธุ์ก็ใกล้เคียงกันมาก จนคนเลี้ยงเองก็มีสับสนบ้าง
เผลอๆจะแยกไม่ออกเลยก็มี เช่นเดียวกัน เจ้ากระบองเพชรหางกระรอก ก็มีพี่น้องร่วมสกุล เช่น กระบองเพชรหางลิง และกระบองเพชรหางสิงห์
สกุลที่ว่านี้คือสกุล Aporocactus นั่นเอง ซึ่งลักษณะโดยทั่วไปของสกุลนี้ คือจะมีลำต้นเป็นทรงกระบอกเรียวยาว
หากโตขึ้นในช่วงแรก เจ้าพวกนี้จะโตแบบเป็นแท่งยาวๆ คล้ายหางสัตว์ นั่นจึงทำให้เจ้ากระบองเพชรสกุลนี้ถูกเรียกว่าหางนั่นเอง
และเมื่อมีอายุมากขึ้น ความยาวของลำตัวมากขึ้น เจ้าพวกนี้จะปรับลักษณะของตัวเองจากที่เป็นแท่งยาวตรง ก็จะค่อยๆงอตัวลง จนทำให้ดูเหมือนหางสัตว์จริงๆ
พูดถึงพี่น้องในสกุลกันไปแล้ว มาเข้าเรื่องเจ้ากระบองเพชรหางกระรอกกันดีกว่า เจ้าตัวนี้มีลักษณะเด่นอยู่ตรงที่ “สีของหนาม”
ซึ่งกระบองเพชรหางกระรอกนั้น จะมีหนามทั้งสีเหลือง และสีแดง แต่สายพันธุ์ที่อาจจะทำให้สับสนได้คือกระบองเพชรหางสิงห์
ซึ่งเจ้าตัวนี้เป็นพันธุ์ที่พัฒนามาจากหางกระรอก ขนาดลำตันของกระบองเพชรหางสิงห์ นั้นจะมีขนาดใหญ่กว่า มีหนามใหญ่และแข็งกว่า
แต่มีหนามสีเหลืองเหมือนกันกับกระบองเพชรหางกระรอก
ถิ่นกำเนิดของกระบองเพชรหางกระรอก
เจ้ากระบองเพชรหางกระรอกมีอีกชื่อว่า กระบองเพชรหางหนู เจ้านี่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศเม็กซิโก (ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของกระบองเพชรหลายๆ สายพันธุ์)
และยังได้รับความนิยมไปทั่วโลก ในประเทศไทยเองเจ้ากระบองเพชรหางกระรอก ก็ได้รับความนิยมในการปลูกเหมือนกัน เพราะขยายพันธุ์ง่าย
และราคาไม่แพง อยู่ที่ประมาณ 100-200 บาท แล้วแต่ขนาดของต้น แต่เจ้านี่ก็มีข้อเสียอยู่บ้าง ที่ออกดอกค่อนข้างยาก จึงเหมาะเป็นไม้ประดับมากกว่า
วิธีเลี้ยงกระบองเพชรหางกระรอก
วิธีเลี้ยงเจ้ากระบองเพชรหางกระรอกนั้นก็จะคล้ายๆ กับการเลี้ยงกระบองเพชรทั่วไป ตรงที่ไม่ต้องรดน้ำบ่อย และคอยสังเกตดินอย่างสม่ำเสมอ
ว่าดินแห้งหรือเปล่า เจ้านี่เป็นพันธุ์ที่ชอบแดดมากๆ สามารถปลูกแบบห้อยแขวนไว้ที่ระเบียงได้ เพราะตอนที่น้องโตขึ้นน้องจะค่อยๆ
งอตัวลงเป็นสายยาวๆ และกระบองเพชรหางกระรอกนั้น ไม่เหมือนกับกระบองเพชรบางชนิดที่ชอบแสงแดดรำไรในช่วงเช้า
เพราะเจ้านี่ชอบแดดแรงๆ ของประเทศไทยเอามากๆ! โดยเฉพาะแดดในช่วงบ่ายโมงถึงบ่ายสามโมง และอย่าลืมให้ปุ๋ยน้องบ้างนะคะเพื่อความแข็งแรงของต้นกระบองเพชร
หากเลี้ยงไปเรื่อยๆ แล้วน้องเริ่มมีอายุมาก บวกกับมีการใส่ปุ๋ยอยู่สม่ำเสมอ กระบองเพชรหางกระรอกก็สามารถให้ดอกได้เช่นกัน
โดยดอกของน้องนั้นจะเป็นดอกที่มีสีชมพูอ่อนๆ ไปจนถึงสีชมพูจัด (บานเย็นเลยก็ว่าได้) และจะออกดอกเยอะมาก
อีกอย่างหนึ่งควรจะเลือกกระถางเหมาะๆ ให้กับน้อง เพราะเมื่อน้องโตแล้ว น้องจะค่อยๆ ยาวเรี่ยลงมาด้านล่าง การปลูกด้วยกระถางแขวน จึงเหมาะกับกระบองเพชรพันธุ์นี้ที่สุด
ดินที่จะปลูกก็เป็นดินแคคตัสทั่วไป คือเป็นดินร่วนโปร่ง ที่สามารถระบายน้ำได้ดี มีการผสมหินภูเขาไฟบ้าง เพอร์ไลท์บ้างเพื่อไม่ให้ดินแน่นจนเกินไป
จนทำให้เกิดการขังของน้ำภายในดิน เพราะถ้าหากเกิดการขังของน้ำขึ้นมาอาจจะทำให้รากเน่า และต้นตายได้ ส่วนการขยายพันธุ์สามารถขยายพันธุ์
ได้ด้วยการปักชำหรือการเพาะเมล็ด สำหรับมือใหม่ที่เริ่มหัดปลูกกระบองเพชร แนะนำว่าให้ซื้อที่ปลูกเป็นต้นแล้วมาลองเลี้ยงก่อนจะดีกว่า
กระบองเพชรหางกระรอกเลี้ยงก็ง่าย ประดับบ้านก็สวย
กระบองเพชรหางกระรอกนั้นเป็นกระบองเพชรที่ปลูกง่าย และเลี้ยงง่าย บางชนิดอาจจะถูกแดดแรงๆ มากไม่ได้ แต่เจ้านี่สามารถอยู่กับแดดได้ทั้งวัน
แม้ว่าจะมีข้อเสียตรงที่ค่อนข้างจะออกดอกยาก แต่บอกได้เลยว่าถ้าได้ออกดอกแล้ว น้องจะสวยดึงดูดใจ สะดุดตาคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแน่นอน
และสำหรับใครที่สนใจกระบองเพชรสายพันธุ์อื่นๆจากทั่วมุมโลกเพิ่มเติม ทาง Midori-Garden ก็มีหนังสือภาพกระบองเพชรสวยๆให้สั่งซื้ออีกด้วยนะคะ