CONTENT
พาไปรู้จักกระบองเพชรถังทอง เจ้าน้องน่ารักแถมชื่อยังมงคล!
เม.ย.
หลาย ๆ คนที่มีความสนใจในกระบองเพชร อาจรู้จักเจ้ากระบองเพชรถังทองนี่แล้ว แต่ก็มีหลายคนที่เพิ่งเริ่มศึกษาและทำความรู้จักกับเจ้าต้นไม้หน้าตาแปลกแต่น่ารักอย่างกระบอกเพชร วันนี้ จะพาไปรู้จักกับเจ้าน้องกระบองเพชรถังทองแบบรอบด้าน เรียกได้ว่าอ่านจบบทความนี้ไปรับน้องมาเลี้ยงได้ชิล ๆ กันเลย
Contents
ชื่อกระบองเพชรถังทองนั้นได้แต่ใดมา
กระบองเพชรถังทอง มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Golden Barrel Cactus หรือ Mother-in-law’s Cushion
ซึ่งแปลได้อย่างขำ ๆ ว่าเก้าอี้แม่ยาย และมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Echinocactus grusonii อันเป็นสกุลเดียวกับเจ้ากระบองเพชรกระบองทอง กระบองเพชรดาวล้อมเดือน และกระบองเพชรนูปต้า
โดยกระบองเพชรในสกุลนี้จะมีจุดสังเกตที่คล้ายคลึงกันคือหนามดก เป็นเส้นเรียวเล็ก และมักมีทรงกลม (เว้นกระบองทองที่มีลักษณะคล้ายกระบอง)
ลักษณะของกระบองเพชรถังทอง
ถังทองมีลักษณะโดยทั่วไปคือ จะมีลักษณะลำต้นเป็นทรงกลม มีหนามดกสีขาว/เหลืองขึ้นปกคลุมทั่วทั้งลำต้น ด้านบนเป็นหน้าตัด ทำให้ดคูล้ายกับปากถัง และด้วยสีของหนามที่ออกเหลืองอร่าม
จึงทำให้ถูกเรียกว่าถังทอง เมื่อยังเล็ก ๆ ลักษณะการแยกเป็นสันพูจะยังไม่ชัดเจนนัก มีลักษณะเป็นเนินหนาม จนดูคล้ายกับแมมมิลลาเรีย จนหระทั่งขนาดประมาณ 7-8 เซนติเมตร เนินหนามจึงมาเรียงตัวกันเป็นสันพูชัดเจน
ถังทองจะออกดอกได้ก็ต่อเมื่อมีอายุมากกว่า 10 ปี และมีขนาดใหญ่มาก (มากกว่า 50 เซนติเมตรขึ้นไป) ซึ่งดอกจะออกอยู่บริเวณยอดตัดของต้น และมีสีเหลืองทอง
ประเทศถิ่นกำเนิดกระบองเพชรถังทอง
ถังทองมีถิ่นกำเนิดอยู่แถบทิศตะวันออกของประเทศเม็กซิโก เห็นเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายแบบนี้ เจ้าถังทองกลับถูกขึ้นบัญชีเป็นไม้ที่มีความเสี่ยงต่อการสูงพันธุ์ได้สูง ซึ่งเกิดตามธรรมชาติและจัดอยู่ในจำพวกพันธุ์ไม้หายาก
โดยในประเทศของเรานั้น เจ้าถังทองได้ถูกนำเข้ามาปลูกและขยายพันธุ์อยู่หลายปีแล้ว ซึ่งมีทั้งแบบขนาดเล็กจิ๋วน่ารัก สำหรับผู้ชื่นชอบที่มีเนื้อที่ไม่เพียงพอนำไปเลี้ยงไว้ประดับบ้านเรือน ไปจนถึงขนาดใหญ่ที่ปลุกในกระถางใหญ่
หากพูดถึงสมัยนี้แล้ว เจ้าถังทองแบบตัวโตดูจะเป็นที่นิยมในการนำไปจัดแต่งสวนตามอาคารหรือสำนักงานมากกว่า เพราะลักษณะของถังทองเมื่อโตเต็มที่แล้ว จะมีหนามแหลมปกคลุมเป็นสีเหลืองทองอร่ามทำให้สวนดูมีชีวิตชีวา แต่หากใครที่ชอบต้นกระบองเพชรถังทองแบบเล็ก ซึ่งนิยมปลูกในบ้าน ก็สามารถหาซื้อได้ทั่วไปในราคาไม่แพง
คำแนะนำในการปลูกกระบองเพชรถังทอง
คำแนะนำสำหรับการปลูกเจ้าถังทองในกระถางเล็กคือ ดินจะต้องมีลักษณะโปร่งระบายน้ำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นดินที่ผสมเองหรือเป็นดินสำหรับปลูกแคคตัสโดยเฉพาะ เพราะเจ้าถังทองนี้เป็นแคคตัสที่ชอบแดดมาก ๆ ไม่จำเป็นต้องรดน้ำบ่อย
เมื่อลงกระถางแล้วก็ให้รดน้ำ 1 ครั้งต่อ 5 วัน อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นพืชชอบแดด แต่ไม่ควรวางเจ้าถังทองให้โดดแดดแรงในระยะเวลานาน ๆ เพราะถังทองนั้นมีผิวของลำต้นที่ค่อนข้างบาง หากแดดแรงจนเกินไป อาจทำให้ผิวลำต้นไหม้และเหี่ยวได้
ไม่เพียงแค่การปลุกไว้เพื่อความสวยงาม แต่เจ้าถังทองนี้ยังมีชื่อและความเชื่อที่เป็นมงคลอย่างมาก โดยจะเด่นในด้านการเงิน ช่วยเสริมโชคลาภและเงินทอง ทำให้กิจการก้าวหน้า
หากใครที่ทำงานประจำอยู่ก็มีความเชื่อว่าจะทำให้ได้เลื่อนตำแหน่งทางหน้าที่การงานได้เร็ว และนำโชคดีมาสู่ผู้เลี้ยงและครอบครัว ว่ากันว่าหากปลูกจนสามารถออกดอกได้ จะทำให้ผู้เลี้ยงมีเงินมีทองใช้เหลือ ๆ เลยทีเดียว
แนะนำ #3 สายพันธุ์กระบองเพชรถังทองสุดชิค🌵
1. E. grusonii ‘brevispinus’ (Tanshi kinshachi)
หรือที่เรียกกันแบบง่ายๆว่ากระบองเพชรถังทอง ‘หนามสั้น’ และด้วยความเหมือนกับราวกับฝาแฝดทำให้หลายคนแยกเจ้าถังทองหนามสั้นกับถังทองดั้งเดิมอย่าง E. grusonii ‘intermedius’ แทบไม่ออก
2. E. grusonii ‘curvispinus’ (Kyoshi kinshachi)
เรียกกันว่ากระบองเพชรถังทองแบบหนามบิด เป็นกระบองเพชรถังทองที่หนามมีลักษณะบิดเป็นเกลียว ไม่ได้มีหนามยาวหรือใหญ่แบบตรงๆ
3. E. grusonii ‘inermis’ (Togenashi kinshachi)
สายพันธุ์สุดท้าย ชาวกระบองเพชรเรียกกันว่าถังทองไร้หนาม แต่ก็ไม่ถึงกับหนามเกลี้ยงแบบกระบองเพชรนูดัม แต่ถังทองสายพันธุ์นี้ยังคงความหนามไว้ แต่เป็นหนามที่มีขนาดเล็ก ชนิดว่าจะรู้ได้ว่ามีหนามก็ต่อเมื่อลูบดอทหนาม (areole) เท่านั้น
มาเลี้ยงกระบองเพชรถังทองกันเถอะ
บอกเลยว่าเจ้ากระบองเพชรถังทองนี้ นอกจากหน้าตาจะน่ารักแล้ว ยังมีความเป็นสิริมงคลอีกด้วย แถมการเลี้ยงดูก็ไม่ยากอย่างที่คิด ไม่ต้องกลัวว่าพาน้องมาเลี้ยงแล้วจะทำให้น้องเหี่ยว
เพียงแค่เลี้ยงดูและใส่ใจน้องเหมือนกับต้นไม้ทั่ว ๆ ไป (น้องกินน้ำไม่เยอะ ไม่ต้องรดบ่อยนะ!) เจ้าถังทองก็อาจนำพาโชคลาภมาให้เราได้ รู้แบบนี้จะรอช้าอยู่ใหญ่ ไปพาน้องมาเลี้ยงเสริมมุมน่ารัก ๆ ให้บ้านพร้อมเสริมดวงกันเถอะ!
